เบรคแต่ง เบรคเต็มล้อ ดูเข้ากันอย่างพอดีลงตัว

เบรคแต่ง เบรคซิ่งที่นิยมเปลี่ยนกันคือเบรคที่มีขนาดใหญ่กว่าหรือเท่ากับขนาดเบรคเดิมที่ติดมากับรถ ทั้งขนาดจานเบรคและขนาดของปั้มเบรคล่างที่เรียกกัน “คาลิปเปอร์” สามารถเลือกเปลี่ยนเฉพาะแค่จานหรือเปลี่ยนทั้งชุดที่มาพร้อมกัน นอกจากความสวยงามที่เพิ่มความโดดเด่นให้กับล้อได้มาก ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญของหลายๆ คนที่เลือกเปลี่ยนเบรคซิ่งนี้ ยังช่วยให้การเบรคดีขึ้น ระยะการเบรคสั้นลงจากเดิมได้อีก หลังจากเปลี่ยนเบรคแน่นอนว่า ประสิทธิภาพเบรคต้องดีขึ้น ระยะสั้นลงเบรกง่ายขึ้นมั่นใจขึ้น แต่จะตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้ได้ต้องเริ่มจากก่อนติดตั้ง การคำนวณเลือกใช้เบรคให้พอเหมาะกับน้ำหนักรถและสิทธิภาพรถคันนั้นๆ จำนวนพอท ขนาดพอท(พอท=ลูกสูบททำหน้าที่ดันผ้าเบรก) เป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้เราขับง่าย และ มีประสิทธิภาพที่ดี

สิ่งสำคัญคือการติดตั้ง

ถามว่าปัจจัยหลักๆ ของคนที่เปลี่ยนเบรคซิ่ง เบรคแต่ง สิ่งแรกๆ ที่ต้องการก็น่ามาจากความสวยที่ช่วยให้รถดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่อยากแนะนำคือควรจะติดตั้งกับอู่หรือร้านที่มีคุณภาพ ชื่อเสียงเชื่อถือได้ โดยเฉพาะเบรคที่ต้องแปลงจากรุ่นอื่นมาใส่กับรถรุ่นของรถคุณ การติดตั้งต้องอาศัยเทคนิคความเชี่ยวชาญมากกว่าการเปลี่ยนอุปกรณ์เบรคที่มาแบบตรงรุ่น ขันน๊อตใส่ได้เลย ถ้าคนทำไม่ชำนาญติดตั้งไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดปัญหาจากการใช้งานได้ อย่าให้อุปกรณ์ตกแต่งรถที่เสียเงินเพิ่มไป เจ้าของหวังให้รถมีความโดดเด่น สวยงามและรถดีขึ้นต้องมาสร้างปัญหาในการขับขี่

ว่ากันเรื่องเบรคซิ่ง เปลี่ยนทำไม? ดียังไง? ชีวิตปลอดภัยขึ้นไหม?

พูดถึงเบรคเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในรถยนต์ เป็นชิ้นส่วนที่ถูกติดตั้ง มาจากโรงงาน ตั้งแต่เกิดการผลิตรถยนต์ คันแรก จนถึงปัจจุบัน แต่เบรคนั้นถูกพัฒนามาเรื่อยๆจนถึง ปัจจุบัน เนื่องจาก เป็นสิ่งสำคัญที่ใช้ช่วยชีวิต และเพิ่มความสะดวก สบาย ในการขับขี่ให้มากขึ้น ในยุคปัจจุบันนั้นเบรค ไม่ได้สร้างความปลอดภัย ให้กับผู้ขับขี่เพียงอย่างเดียว ยังเป็นอุปกรณ์ เพิ่มความสวยงาม ให้กับรถยนต์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย วันนี้ lenso จะพาทุกท่านไปเจาะลึกเรื่องเบรค ที่เห็นคนอื่นเขาเปลี่ยนกันคุ้มค่าแค่ไหน สำหรับบทความวันนี้เราได้รับความรู้และคำแนะนำมาถ่ายทอดให้ทุกๆท่าน จากเจ้าสำนักRenesis racing serviceหรือ ในชื่อคุณ สามารถ หร่ำเดช ซึ่งมีประสบการด้านเบรกรถยนต์มายาวนานมากกว่า20กว่าปี

ย้อนกลับไปในยุคต้นกำเนิดธุรกิจจำหน่ายเบรค ในยุคอดีตเบรคไม่ใช่ชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นแฟร์ชั่นเหมือนกับยุคปัจจุบันในยุคนั้นคนที่เลือกซื้อเบรคส่วนใหญ่ จะนำเบรค ของรถที่ถูกออกแบบมาเป็นรถยนต์ performance ซึ่งสามารถรองแรงม้าได้มากกกว่ารถปกติ และระบายความร้อนได้ดีกว่า นำมาแปลงใส่รถตัวเอง เมื่อรถวางเครื่องใหม่คนจะมองว่า เบรกเดิมมันไม่พอน้ำหนักเครื่องและแรงม้าสูงขึ้นทำให้การเปลี่ยนเบรคที่รองรับประสิทธิภาพได้มากกว่าจึงเกิดความนิยม อย่างที่เราได้ยินหรือเคยเห็นกันคุ้นตาในยุคอดีต คือการนำเอาเบรก skyline นำมาแปลงใส่รถ หลายๆรุ่น

สายเบรคถัก

เป็นอีกหนึ่งของแต่งที่ฮิตกันมานาน สำหรับสายซิ่งและสายสนามทุกคน โดยมีการติดตั้งใส่กับเบรคของรถมอเตอร์ไซค์แทบจะทุกขนาดเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่รถป๊อบแง๊ดๆ อย่าง Honda Dio 50 ซีซี. ที่เน้นในด้านความสวยงามในส่วนของช่วงล่างเป็นหลัก หรือจะขยับมาถึงสายแว๊นซ์ดันโลอย่าง Honda PCX150 จนถึงเหล่า 2T ในตำนานอย่าง Kawasaki KR150 ที่อัพเกรดจัดหนักจัดเต็มด้วยชุดเบรคเทพโดยมีสายเบรคถักเป็นเครื่องเคียงคู่ใจที่มาได้ทั้งความสวยงามและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น และสุดท้ายกับการติดตั้งเข้ากับรถบิ๊กไบค์ที่บางรุ่นเพียงเปลี่ยนใช้สายเบรคถักเข้ากับปั๊มเบรคเดิมก็สามารถเพิ่มความสวยงามและประสิทธิภาพของการเบรคที่มีพลังมากขึ้นทันตาเห็น หรือในบางคันที่อัพเกรดจัดเต็มทั้งชุดเบรคครบเซ็ต คงไม่ต้องอธิบายกันให้ยากเลยครับ ว่าพลังเบรคจะขนาดไหน คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วใช่ไหมล่ะครับว่า ทำไมเพียงแค่การเปลี่ยนจากสายเบรคเดิมมาเป็นสายเบรคถัก

เบรคหน้า และ เบรคหลัง

เบรคหน้า (Front Brake) เป็นเบรคที่ให้ประสิทธิภาพในการหยุดรถดีที่สุด แต่จะทำให้รถเสียความสมดุลในการทรงตัวมากที่สุด เนื่องจากเมื่อกดเบรคหน้า น้ำหนักเกือบทั้งหมดของรถจะถูกเหวี่ยงมาด้านหน้าผ่านโช้คลงไปสู่ล้อหน้า (เป็นที่มาของคำว่า “เบรคหัวทิ่ม”) เบรคหน้าจึงเป็นการลดความเร็วของรถทั้งคันอย่างแท้จริง เพราะมันมารวมอยู่ที่ล้อหน้าเกือบทั้งหมด แต่ด้วยน้ำหนักดังกล่าวนี้เองทำให้ช่วงหน้าหนักเป็นผลให้รถเลี้ยวยากตามไปด้วย

เบรคหลัง (Rear Brake) จะให้ประสิทธิภาพในการเบรคน้อยกว่า แต่รถมีความสมดุลมากกว่า เนื่องจากเมื่อกดเบรคหลังจะมีน้ำหนักบางส่วนกดลงมาที่ล้อหลัง แต่ส่วนใหญ่จะยังคงถูกเหวี่ยงไปยังด้านหน้าของรถตามแรงโมเมนตัม ณ จุดนี้จึงเป็นการลดความเร็วเพียงบางส่วนของทั้งหมด เพราะความเร็วส่วนที่เหลือได้ถ่ายไปยังด้านหน้ารถ (ฉะนั้นถึงแม้เบรคจนล้อหลังล็อค รถก็ยังคงวิ่งต่อไปได้ด้วยล้อหน้า) ทำให้ใช้ระยะทางในการเบรคมากกว่า แต่นี่เองทำให้น้ำหนักของรถกระจายไปยังล้อหน้า-หลังอย่างสมดุลเป็นผลให้ควบคุมรถในขณะเบรคได้ง่าย

เบรคอย่างไรให้ปลอดภัย?

รถเสียหลัก คือเรื่องที่เกิดขึ้นได้จากการหยุดรถแบบกะทันหัน และจากลักษณะการใช้งานของระบบเบรคมอเตอร์ไซค์ทั้ง 3 ระบบ ที่พูดไปแล้วนั้น จะเห็นว่าสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อใช้งานเบรคก็คือ น้ำหนักในการบีบก้านเบรกและการกะระยะเบรคให้เหมาะสม ซึ่งทั้ง 2 อย่างอาจจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่ชั่วโมงบิดสูง ขี่มอเตอร์ไซค์และกำเบรคจนชินมือ แต่สำหรับคนที่ยังต้องการคำแนะนำอยู่ เราแนะนำให้ออกแรงบีบก้านเบรคเพียง 20-30 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการหยุดรถด้วยเบรคหน้า และให้ออกแรงบีบก้านเบรคประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการหยุดรถด้วยเบรคหลัง และควรเพิ่มการกะระยะเบรคให้มากขึ้นกว่าปกติ

6 แบรนด์เบรคของรถยนต์ ที่คนไทยนิยมเลือกใช้กันมากที่สุด

หากพูดถึงรถยนต์ ก็จัดเป็นยานพาหนะหลักที่มีความจำเป็นมากๆ ในยุคปัจจุบัน ซึ่งภายในรถวนต์นั้นก็ประกอบไปด้วยวัสดุอุปกรณ์มากมายนับหมื่ยชิ้นที่ช่วยให้รถยนต์ นั้นขับเคลื่อนไปด้วยความปลอดภัย และ อีกหนึ่งสิ่งที่ถือว่าขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือระบบเบรคในรถยนต์ หลังจากที่เราได้พาทุกท่านไปรู้จักกับเบรกแต่ละชนิดกันแล้ว ในวันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับ 6 แบรนด์เบรคของรถยนต์ ที่คนไทยนิยมเลือกใช้กันมากที่สุด

1. อันดับ 1 Brembo
   ถ้าพูดถึงชื่อนี้ก็คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เพราะถือว่าเป็นแบรนด์เบรคที่เราเกิดมาก็ได้ยินชื่อนี้แล้ว เป็นผู้ผลิตเบรคอันดับหนึ่งของโลกที่ผลิตเบรคให้กับยานพหนะทุกชนิด และ รถแข่งทุกรูปแบบจนสามารถสร้างชื่อเสียงและสร้างตำนานเอาไว้อย่างมากมายที่ในปัจจุบันไม่สามารถมีใครโค่นบัลลังก์ได้ ที่ในปัจจุบันก็มีแบรนด์รถยนต์ชั้นนำต่าง ๆ มากมาย
2. อันดับ 2 Endless
   สำหรับอันดับ 2 ระบบเบรคที่ นักแข่งและผู้คนต่างเลือกใช้ และนิยมไม่แพ้ Brembo เลย ก็จะเป็นเบรคจากสำนักแต่งสัญชาติญี่ปุ่น อย่างค่าย Endless ที่จะโดดเด่นมากับจานดิสก์ และ คาลิปเปอร์เบรกสีน้ำเงินเข้มอันสวยงาม ที่ใส่กับล้อสีอะไรก็สวย ซึ่งเบรคสำนักนี้ก็จัดอยู่ในเกรดเดียวกับเบรคจาก Italy อย่าง Brembo เลย ที่เรามักจะพบเห็นได้บ่อยในรถแข่งจากประเทศญี่ปุ่น และ จากทีมอื่น ๆ อีกมากมาย
3. อันดับ 3 ATS
   แน่นอนว่าในปัจจุบันนี้ถ้าไม่พูดถึงเบรคของที่นี่ก็คงเชยแย่ เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่มาแรงมาก ๆ ในเวลานี้เลย โดยแบรนด์ ATS นี้จะเป็นเบรคสัญชาติเยอรมัน ที่ผลิตขึ้นจากโรงงานระดับแนวหน้าของประเทศที่มีส่วนร่วมผลิตชิ้นส่วนให้แบรนด์เบรคชั้นนำหลาย ๆ แบรนด์ สำหรับความพิเศษของเบรคจากที่นี่นั้นจะทำมาจากวัสดุ Aluminium Force ที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรงและทนทานต่อความร้อนสูงได้ดี
4. อันดับ 4 Wilwood
   คือแบรนด์เบรคสัญชาติอเมริกา ที่ใครเป็นสายเมกานั้นต่างก็จะไม่พลาดที่จะเลือกเบรคยี่ห้อนี้มาใช้กันเสมอ ซึ่งถ้าใครที่เป็นคนชอบแต่งรถก็จะทราบกันดีว่า แต่ละคนก็จะมีแนวทางที่ชื่นชอบแตกต่างกันออกไป ที่ถ้าคนไหนศรัทธาประเทศไหนก็จะใช้ของแต่งจากที่นั้น ๆ ทั้งคันอย่างเช่น แนวญี่ปุ่น , แนวอเมริกา , แนวยุโรป เป็นต้น
5. อันดับ 5 Spoon
   ถ้าพูดถึงชื่อนี้สาย Honda คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก หรือ ถ้าคุณขับ Honda แล้วยังไมรู้จักสำนัก Spoon Sport ล่ะก็ รีบทำความรู้จักด่วนเลย เพราะในนาทีนี้สำนักแต่งที่ผลิตของแต่งมาเพื่อรถยนต์ของ Honda โดยเฉพาะตั้งแต่ในยุคเริ่มต้นที่เติบโตมาควบคู่กับแบรนด์ Honda เลย ที่ผลิตของแต่งยอดฮิตให้กับรถยนต์ และ รถแข่ง ของ Honda มาแล้วอย่างมากมายตั้งแต่ NSX จนถึง Honda Jazz และ City Hatchback ในปัจจุบัน
6. อันดับ 6 Greddy
   สำนักแต่งชื่อดังในตำนานสัญชาติญี่ปุ่นที่มีอุปกรณ์ตกแต่งรถมาจำหน่ายอยู่มากมายหลายชนิด ซึ่งล้วนแต่เป็นอุปกรณ์ที่รองรับและเสริมพละกำลังความแรงให้กับตัวรถด้วยกับทั้งสิ้น และ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เสริมความปลอดภัยมากที่สุดอีกหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือ เบรค โดยเบรคของที่ก็จะมีมาให้ท่านเลือกได้อย่างมากมายหลายชนิด ที่สามารถรองรับแรงม้าระดับ 1,000++ ได้เลย

สรุป เบรคแต่ง

ทั้งหมดที่เราได้นำมาฝากทุกท่าน ในบทความ 6 แบรนด์เบรคของรถยนต์ ที่คนนิยมเลือกใช้กันมากที่สุด เรื่องนี้ ยังมีชุดเบรคจากสำนักแต่งอีกมากมายที่มีประสิทธิภาพดี และ น่าใช้มาก ๆ ในปัจจุบัน อย่างเช่น ยี่ห้อ H-Drive , AP Racing , K Sport , Project MU และ อีกมากมาย ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งเหตุผลหลัก ๆ ที่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนมาใช้เป็นของแต่งนั้นไม่ใช่ว่าของเดิมที่ผู้ผลิตรถยนต์ให้มานั้นไม่ดีแต่อย่างใด ส่วนมากก็จะเป็นรถยนต์ที่ได้รับการ bossbrake เพิ่มเติมจนเบรคของเดิมติดรถนั้นเอาไม่อยู่ หรือ จะเป็นผู้ที่ชื่นชอบขับด้วยความเร็วก็จะนิยมแต่งเบรคให้มีประสิทธิภาพสูงเพื่อเพิ่มความปลอดภัยด้วยเช่นกัน